MYSTERY
BABYLON THE GREAT WHORE
Chapter 34 FAMILY and FRIENDS
ครอบครัวและเพื่อน
ครอบครัวและเพื่อน
Who
is your FAMILY and who are your FRIENDS? In the literal sense your FAMILY
consists of people whom are genetically connected to you, such as
your Great Grandparents and Grandparents, Mother, Father, Sisters, Brothers,
Aunts, Uncles, Nieces, Nephews, and Cousins; all the people that make up your genetic family tree.
ใครคือครอบครัวของท่าน
และใครคือเพื่อนของท่าน ในความหมายตามตัวอักษรครอบครัวนั้นประกอบด้วยคนผู้ซึ่งมีสายสัมพันธ์ทางสายเลือด
เช่น คุณทวด ปู่ย่าตายาย แม่ พ่อ น้องสาวน้องสาว พี่ชายน้องชาย ลุงป้าน้าอา
หลานชาย หลานสาว และลูกพี่ลูกน้อง คนเหล่านี้คือผู้ที่อยู่ในลำดับเครือญาติ
ของท่าน
Also
in the literal sense, people whom you probably call your FRIENDS are generally
made up of associates and acquaintances; people you have met whom you believe
are not your enemies.
ขณะเดียวกับ คำว่า เพื่อน
ความหมายตามตัวอักษรคือกลุ่มคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคุณเป็นคนรู้จัก
คนเหล่านั้นคือคนที่คุณมองว่าไม่ใช่ศัตรู
Therefore,
in the literal sense, once you have met someone and they are no longer
considered a STRANGER and you
believe they are not your enemies; they immediately become your FRIENDS.
ดังนั้น เมื่อท่านได้พบกับใครก็ตามที่พวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับคุณอีกต่อไป
และคุณมองว่าเขาเหล่านั้นไม่ใช่ศัตรู พวกเขาจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มของ เพื่อน ไปโดยปริยาย
Even
though you may have only met a person a short while before introducing them to FAMILY and FRIENDS, you would more than
likely introduce them as being your FRIENDS.
ถึงแม้ว่าท่านจะพบเขาเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่จะแนะนำให้ครอบครัวและกลุ่มเพื่อนของคุณรู้จัก
คุณก็จะเรียกคนเหล่านั้นว่าเป็นเพื่อนของคุณเช่นกัน
As defined thus far; are people having some
sort of genetic connection to you really your FAMILY, and are all the people
you have met during the course of your life whom you believe pose you no
threat, your FRIENDS ?
จากคำจำกัดความด้านบน สรุปได้ว่า
ใครก็ตามที่มีความสำพันธ์ทางสายเลือดกับคุณจะถูกเรียกว่า ครอบครัว
และผู้คนที่คุณพบเจอผ่านเข้ามาในชีวิตและไม่มีอันตรายต่อคุณจะถูกเรียกว่า เพื่อน
In
this Chapter titled, "FAMILY and FRIENDS", WE will discuss this matter, and PROPERLY define the meaning of
FAMILY and FRIENDS in accordance with the WORD of GOD.
บทนี้หัวข้อเรื่อง ครอบครัวและเพื่อน เราจะพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งนี้ในความหมายตามพระวจนะพระเจ้า
Throughout
time the words, "FAMILY and FRIENDS" have been watered down and improperly used, and THE LORD wants
to put these TWO WORDS back into their PROPER
PERSPECTIVE. Let US start by using JESUS' DEFINITION of the WORDS, FAMILY and FRIENDS: For JESUS CHRIST is the WORD of GOD.
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คำว่า “ครอบครัวและเพื่อน”
ได้ถูกใช้บ่อยครั้งและอย่างไม่ถูกต้อง และพระเจ้าปรารถนาจะให้เราเข้าใจความหมายของคำนี้อย่างถูกต้อง
โดยเริ่มกันที่ความหมายตามที่พระเยซูใช้คำว่า ครอบครัว และ เพื่อน ในพระวจนะก่อน เพราะพระเยซูคือพระวาทะ
FAMILY DEFINED/
คำจำกัดความของคำว่าครอบครัว
Matthew 12:46 While HE yet talked to the people,
behold, HIS mother and his brethren stood without, desiring to speak with HIM.
Matthew 12:47 Then one said unto HIM, Behold, thy
mother and thy brethren stand without, desiring to speak with THEE.
Matthew 12:48 But HE answered and said unto him
that told HIM, WHO IS MY MOTHER? AND WHO ARE MY BRETHREN?
Matthew 12:49 And HE stretched forth HIS HAND
toward HIS Disciples, and said, BEHOLD MY MOTHER AND MY BRETHREN!
Matthew 12:50 FOR WHOSOEVER SHALL DO THE WILL OF
MY FATHER WHICH IS IN HEAVEN, THE SAME IS MY BROTHER, AND SISTER, AND MOTHER.
มัทธิว 12:46 ขณะที่พระองค์ยังตรัสกับประชาชนอยู่นั้น
ดูเถิด มารดาและพวกน้องชายของพระองค์พากันมายืนอยู่ภายนอกประสงค์จะสนทนากับพระองค์
12:47 แล้วมีคนหนึ่งทูลพระองค์ว่า
"ดูเถิด มารดาและพวกน้องชายของพระองค์ยืนอยู่ข้างนอกประสงค์จะสนทนากับพระองค์"
12:48 แต่พระองค์ตรัสตอบผู้ที่ทูลพระองค์นั้นว่า
"ใครเป็นมารดาของเรา ใครเป็นพี่น้องของเรา"
12:49 พระองค์ทรงเหยียดพระหัตถ์ไปทางพวกสาวกของพระองค์
และตรัสว่า "ดูเถิด นี่เป็นมารดาและพี่
น้องของเรา
12:50 ด้วยว่าผู้ใดจะกระทำตามพระทัยพระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์
ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของเรา"
These
last few SCRIPTURES very ACCURATELY DEFINE the WORD, "FAMILY". When JESUS spoke these WORDS, HE was addressing HIS DISCIPLES,
for HE stretched forth HIS HAND towards HIS DISCIPLES. JESUS' DISCIPLES are CALLED, "THE BRIDE of CHRIST".
ข้อพระคำภีร์ข้อท้ายๆ ให้คำจำกัดความคำว่า “ครอบครัว” ได้ชัดเจนมาก เมื่อพระเยซูพูดคำนี้
พระองค์หมายถึงเหล่าสาวกของพระองค์เพราะพระองค์ได้ยื่นมือชี้ไปที่พวกเขา
เหล่าสาวกของพระองค์ถูกเรียกว่า “เจ้าสาวของพระคริสต์”
Therefore,
anyone being of the "BRIDE of CHRIST" is considered by GOD to be FAMILY. This is YOUR real FAMILY A
real FAMILY consists of them whom you have SPIRITUAL
TIES to, not them who you are simply genetically related to.
ดังนั้น
ใครก็ตามที่เป็นเจ้าสาวของพระคริสต์นั้นถูกเรียกว่าเป็น ครอบครัว ของพระองค์ด้วย
นี่แหละคือครอบครัวที่แท้จริงของคุณ ครอบครัวที่แท้จริงนั้นประกอบไปด้วยคนที่ผูกพันกันทางพระวิญญาณ
ไม่ใช่การผูกพันเพียงแค่ทางสายเลือด
GOD
SEES the PEOPLE "IN CHRIST" as being CHRIST. The WORD, "CHRIST", can be considered a "FAMILY
NAME", much like the name Jones or Smith is used as a
family name on EARTH. However, unlike the names of Jones and Smith; whereas
many people having those names are not genetically related;
พระเจ้ามองประชากรที่อยู่ “ในพระคริสต์”
ว่าเป็นเหมือนพระคริสต์ คำว่า “พระคริสต์” ในที่นี้หมายถึง “นามสกุล”
เหมือนๆกับนามสกุลคนทั่วๆไป เช่น โจนส์ หรือ สมิท ที่ใช้กับนามสกุลของชาวโลก
แต่ต่างกันตรงที่ เหล่าชาว “วงศ์พระคริสต์” นี้ไม่ได้ผูกพันกันทางสายเลือดเหมือนคนทั่วไป
ALL HAVING THE NAME CHRIST ARE SPIRITUALLY
RELATED BY MARRIAGE and are in the FAMILY of GOD through MARRIAGE. MARIAGE is
SANCTITY by GOD, bringing TWO together as ONE in HOLY
MATRIMONY.
ทุกคนที่ได้ใช้ชื่อ วงศ์พระคริสต์
นี้มีความเกี่ยวพันทางพระวิญญาณผ่านการแต่งงานและกลายเป็นครอบครัวของพระเจ้าโดยการแต่งงานนั้น
การแต่งงานนั้นเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า
เป็นการนำสองคนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันในความบริสุทธิ์ของพิธีสมรส
The FIRST HEAVENLY
MARRIAGE is the MARRIAGE of the TWO SOUL-MATES, TWO SPIRITS SHARING IN ONE SOUL; BOTH
SERVING THE SAME PURPOSE IN GOD. These SPIRITS have GENDER; with one SPIRIT
being a MALE, and the other SPIRIT being a FEMALE.
การสมรสบนสวรรค์ครั้งแรกนั้นเป็นการแต่งงานของคู่จิตวิญญาณ
(soul mates) คือดวงวิญญาณสองดวงที่มีจิตวิญญาณเดียวกัน
ทั้งสองรับใช้เป้าหมายเดียวกันในพระเจ้า วิญญาณเหล่านี้มีเพศ โดยวิญญาณหนึ่งเป็นเพศชาย
และอีกดวงวิญญาณเป็นเพศหญิง
IN
MARRIAGE, the TWO SOUL-MATES become ONE, however NEITHER lose their IDENTITY. BOTH SPIRITS remain as INDIVIDUAL
SPIRITS sharing in ONE SOUL, however the
TWO ACT as a SINGLE ENTITY, doing ALL that they do together as ONE.
โดยการแต่งงาน คู่จิตวิญญาณ (soul mates) ทั้งสองนี้จะรวมเป็นหนึ่งเดียว
อย่างไรก็ตามทั้งสองไม่ได้สูญเสียความเป็นตัวตนของตัวเอง ทั้งสองดวงวิญญาณยังคงเป็นดวงวิญญาณที่ต่างกันอยู่เพียงแต่มีจิตวิญญาณเดียวกัน
ต่างทำหน้าที่ของตนแต่เป็นหนึ่งเดียวกัน
ทุกสิ่งที่พวกเขาทำร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวกัน
The SECOND HEAVENLY MARRIAGE is the MARRIAGE
of the SOUL MATES to CHRIST. In this CASE with CHRIST being the DOMINANT
ENTITY, the SOUL-MATES take on the ROLE of the BRIDE and TAKE the FAMILY NAME
OF THE GROOM, CHRIST!
การสมรสบนสวรรค์ลำดับที่สองนั้นเป็นการแต่งงานของคู่จิตวิญญาณ
(soul mates) กับพระคริสต์ ในกรณีนี้พระคริสต์มีสถานะเป็นผู้ครอบครองผู้เดียว
ดังนั้น Soul mates นั้นจึงมีบทบาทเป็นเสมือน เจ้าสาว
และใช้นามสกุลของเจ้าบ่าว นั่นคือ วงศ์พระคริสต์
It
is by the SECOND MARRIAGE that the BRIDE of CHRIST enters into the TRINITY,
thus giving the BRIDE a DIRECT ACCESS to GOD via THE SON, YESHUA.
การแต่งงานลำดับที่สองนี้เอง
ที่เจ้าสาวของพระคริสต์ได้เข้าเป็นส่วนหนึ่งของตรีเอกานุภาพ
ซึ่งสิ่งนี้เป็นการมอบสิทธิ์ให้กับเจ้าสาวสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้โดยตรงผ่านพระบุตร
– โยชาวาย์ (Yeshua)
The
THIRD MARRIAGE is the TRINITY MARRIAGE, the MARRIAGE of CHRIST to GOD. This is the FINAL MARRIAGE. In
this CASE, with GOD BEING THE DOMINANT ENTITY, CHRIST takes on, the ROLE of the
BRIDE, and RECEIVES GOD'S FAMILY NAME, IXOTE.
การสมรถลำดับที่สามคือ
การสมรถของตรีเอกานุภาพ คือการสมรสระหว่างพระคริสต์กับพระเจ้า นี่เป็นการแต่งงานลำดับสุดท้าย
ในครั้งนี้พระเจ้าคือผู้ครอบครอง พระคริสต์จึงมีสถานะเป็ฯเจ้าสาว
และได้ใช้นามสกุลของพระเจ้า นั่นคือ IXOTE (พระนามของพระวิญญาณบริสุทธิ์)
IXOTE
is THE HOLY SPIRIT of GOD, AND GOD'S IDENTITY. When CHRIST RECEIVES the NAME
IXOTE this by HOLY DECREE DESIGNATES CHRIST AS BELONGING ONLY TO GOD.
IXOTE คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า และเป็นเอกลักษณ์ของพระเจ้า
เมื่อพระคริสต์ได้รับพระนาม IXOTE ของพระวิญญาณบริสุทธิ์แล้วนั้นเป็นการประกาศว่าพระคริสต์เป็นของพระเจ้าเพียงผู้เดียว
Whereas CHRIST is GOD'S PURPOSE, HIS SOUL,
IXOTE, IS GOD'S SPIRIT, HIS IDENTITY, therefore, CHRIST assumes the ROLE as
GOD, in IXOTE.
เนื่องจาก พระคริสต์ คือ
พระประสงค์ของพระเจ้า, พระจิตวิญญาณของพระองค์ , พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า,
ดวงวิญญาณของพระเจ้า, และเป็นพระอัตลักษณ์ของพระเจ้า ดังนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า
พระคริสต์นั้นเป็นบทบาทของพระเจ้าใน IXOTE (พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า)
Each
of these MARRIAGES is an ASCENDING. The FIRST is the ASCENDING of MAN into
CHRIST outside of the TRINITY, thus proclaiming by ASCENDING that MAN IS CHRIST, THE SON Of MAN.
การแต่งงานแต่ละครั้งเป็นการเลื่อนลำดับขั้น
ในการแต่งงานแรกนั้นเป็นการเลื่อนลำดับจากมนุษย์เข้าสู่พระคริสต์
แต่ยังไม่อยู่ในตรีเอกานุภาพ ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า โดยการเลื่อนลำดับขั้นมนุษย์คือพระคริสต์ผู้ซึ่งเป็นบุตรของมนุษย์
The
SECOND is the ASCENDING of CHRIST, YESHUA, WITHIN THE TRINITY, thus PROCLAIMING
by ASCENSION that CHRIST is the SON of GOD. And, the THIRD ASCENDING of CHRIST
into IXOTE, BY DECREE of GOD, PROCLAIMS THAT CHRIST is GOD.
การเลื่อนลำดับครั้งที่สองคือการเลื่อนลำดับของพระคริสต์
– เยชูวาห์ เข้าสู่ตรีเอกานุภาพ ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า จากการเลื่อนอันดับ
พระคริสต์จึงเป็นบุตรของพระเจ้า และ การเลื่อนอันดับครั้งที่สามคือ
การเลื่อนอันดับของพระคริสต์เขาสู่ IXOTE โดยพระบัญญัติของพระเจ้า จึงกล่าวได้ว่า พระคริสต์เป็นพระเจ้า
Psalm 82:1 GOD standeth in the CONGREGATION of the
MIGHTY; HE JUDGETH among the GODS.
Psalm 82:6 I have said, YE ARE GODS; and ALL of you
are CHILDREN of the MOST HIGH.
Psalm 82:7 But ye shall die like men, and fall like
one of the princes.
Psalm 82:8 ARISE, 0 GOD, JUDGE the EARTH: for thou
shalt INHERIT ALL NATIONS.
สดุดี 81:1 จงร้องเพลงถวายพระเจ้า พระกำลังของพวกเรา จงเปล่งเสียงอย่างชื่นบานถวายแด่พระเจ้าของยาโคบ
สดุดี 82:6 เราได้กล่าวว่า "ท่านทั้งหลายเป็นพระ เป็นบุตรขององค์ผู้สูงสุด
ท่านทุกคนนั่นแหละ
82:7 ถึงกระนั้น
ท่านก็จะตายอย่างมนุษย์และล้มลงเหมือนเจ้านายคนหนึ่งคนใด"
82:8 โอ ข้าแต่พระเจ้า
ขอทรงลุกขึ้นพิพากษาแผ่นดินโลก เพราะบรรดาประชาชาติทั้งสิ้นจะเป็นมรดกของพระองค์
FRIENDS DEFINED
คำจำกัดความ ของคำว่า เพื่อน
Whereas the WORD, "FAMILY", has
been somewhat distorted in its use, the WORD, "FRIEND" has been
GROSSLY MISUSED! The WORD, "FRIEND", in accordance with the WORD of
GOD, depicts a PERSON whom has a LOVE of GOD by VIRTUE of their LOVE of JESUS
CHRIST. SCRIPTURE calls these FRIENDS of JESUS, those whom "are CALLED
unto the MARRIAGE SUPPER of the LAMB".
เนื่องจากคำว่า “ครอบครัว”
ถูกนำมาใช้อย่างบิดเบือนความหมาย คำว่า “เพื่อน”
ก็ถูกนำมาใช้อย่างผิดความหมายด้วยเช่นกัน คำว่า “เพื่อน”
ตามความหมายของพระวจนะพระเจ้านั้นหมายถึง บุคคลที่มีความรักของพระเจ้าโดยการมีความรักอย่างบริสุทธิ์ต่อพระเยซูคริสต์
พระวจนะเรียกเพื่อนของพระเยซูว่าเป็น “กลุ่มคนที่ถูกเชิญให้เข้าสู่งานเลี้ยงอาหารค่ำของงานมงคลสมรสของพระเมษโปดก”
Revelation 19:9 And he saith unto me, WRITE, BLESSED
ARE THEY WHICH ARE CALLED UNTO THE MARRIAGE SUPPER OF THE LAMB. And he saith
unto me, THESE ARE THE TRUE SAYINGS OF GOD.
วิวรณ์ 19:9 และทูตสวรรค์องค์นั้นสั่งข้าพเจ้าว่า "จงเขียนไว้เถิดว่า
ความสุขมีแก่คนทั้งหลายที่ได้รับเชิญมาในการมงคลสมรสของพระเมษโปดก" และท่านบอกข้าพเจ้าว่า
"ถ้อยคำเหล่านี้เป็นพระดำรัสแท้ของพระเจ้า"
These are the WEDDING GUESTS whom are the
FRIENDS of the GROOM, JESUS CHRIST. FRIENDS, though they are CLOSE to JESUS and
LOVE HIM, haven't any SPIRITUAL RELATION to HIM, as does the BRIDE.
แขกรับเชิญเข้าสู่งานสมรสเหล่านี้คือผู้ซึ่งเป็นเพื่อนของเจ้าบ่าวคือพระเยซูคริสต์
เพื่อนเหล่านี้แม้จะมีความใกล้ชิดพระคริสต์อย่างมากและรักพระองค์มากมาย
แต่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางพระวิญญาณกับพระองค์เหมือนกับ เจ้าสาว
Whereas
the BRIDE is FAMILY, the WEDDING GUESTS are FRIENDS. And whereas the BRIDE has
OWNERSHIP in HEAVEN by INHERITANCE, the WEDDING GUESTS own nothing in HEAVEN,
but they are HONORED GUESTS.
ในทางตรงข้ามเจ้าสาวเป็นครอบครัว แขกรับเชิญมางานแต่งงานเป็นเพื่อน
เจ้าสาวได้รับสิทธิครอบครองในสวรรค์เป็นมรดก ในขณะที่แขกรับเชิญไม่มีส่วนใดๆในสวรรค์แต่พวกเขาเป็นแขกผู้มีเกียรติ
JESUS, in the SCRIPTURES of the GOSPEL of
John, first refers to HIS DISCIPLES as being HIS FRIENDS. HE does this because HIS DISCIPLES had not yet been
BAPTIZED in the SPIRIT of GOD, therefore at that TIME they could only be
considered WEDDING GUESTS, FRIENDS of the GROOM.
ในพระธรรมยอห์น
เป็นครั้งแรกที่พระเยซูคริสต์ได้พูดถึงสาวกของพระองค์ว่าเป็นเพื่อน
พระองค์ทำเช่นนั้นเนื่องจากสาวกเหล่านั้นยังไม่ได้รับบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์
ดังนั้นในเวลานั้นพวกเขาเป็นได้อย่างมากก็คือ แขกรับเชิญในงานแต่ง
ซึ่งคือเพื่อนของเจ้าบ่าว
However,
in the very next Chapter of the GOSPEL of John, JESUS explains to HIS DISCIPLES
that once they are BAPTIZED, they will no longer need to PRAY in HIS NAME, and
from that TIME forward, they can PRAY DIRECTLY to GOD;
อย่างไรก็ตามในบทถัดไปของพระกิติคุณยอห์น
พระเยซูคริสต์ได้อธิบายแก่สาวกของพระองค์ว่า ทันทีที่พวกเขาได้รับบัพติสมาแล้ว
พวกเขาจะไม่จำเป็นต้องอธิษฐานในนามของพระองค์อีกต่อไป
แต่นับจากนั้นพวกเขาสามารถอธิษฐานต่อพระเจ้าได้เองโดยตรง
for they
will be LOVED by GOD, as JESUS is LOVED by GOD. Once the DISCIPLES had been BAPTIZED in THE
SPIRIT of GOD, they became FAMILY and were by SPIRIT, SPIRITUALLY RELATED to
JESUS.
เพราะพวกเขาจะเป็นคนที่พระเจ้าทรงรักและโปรดปราน
เหมือนกับพระเยซูคริสต์เป็นที่รักของพระเจ้า ครั้นเมื่อสาวกเหล่านั้นได้รับบัพติสมาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า
พวกเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวและมีความสัมพันธ์ทางพระวิญญาณกับพระเยซู
John 15:13 GREATER LOVE HATH NO MAN THAN THIS, THAT A
MAN LAY DOWN HIS LIFE FOR HIS FRIENDS.
John 15:14 YE ARE MY FRIENDS, IF YE DO WHATSO EVER I COMMAND YOU.
John 15:15 HENCEFORTH I CALL YOU NOT SERVANTS; FOR
THE SERVANT KNOWETH NOT WHAT HIS LORD DOETH: BUT I HAVE CALLED YOU FRIENDS; FOR
ALL THINGS THAT I HAVE HEARD OF MY FATHER I HAVE MADE KNOWN UNTO YOU.
John 15:16 YE HAVE NOT CHOSEN ME, BUT I HAVE
CHOSEN YOU, AND ORDAINED YOU, THAT YE SHOULD GO AND BRING FORTH FRUIT, AND THAT
YOUR FRUIT SHOULD REMAIN: THAT WHATSOEVER YE SHALL ASK OF THE FATHER IN MY
NAME. HE MAY GIVE IT YOU.
ยอห์น 15:13 ไม่มีผู้ใดมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการที่ผู้หนึ่งผู้ใดจะสละชีวิตของตนเพื่อมิตรสหายของตน
15:14 ถ้าท่านทั้งหลายประพฤติตามที่เราสั่งท่าน
ท่านก็จะเป็นมิตรสหายของเรา
15:15 เราไม่เรียกท่านทั้งหลายว่าทาสอีก
เพราะทาสไม่ทราบว่านายของเขาทำอะไร แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย เพราะว่าทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดาของเรา
เราได้สำแดงแก่ท่านแล้ว
15:16 ท่านทั้งหลายไม่ได้เลือกเรา
แต่เราได้เลือกท่านทั้งหลาย และได้แต่งตั้งท่านทั้งหลายไว้ให้ท่านจะไปเกิดผล
และเพื่อให้ผลของท่านอยู่ถาวร เพื่อว่าเมื่อท่านทูลขอสิ่งใดจากพระบิดาในนามของเรา พระองค์จะได้ประทานสิ่งนั้นให้แก่ท่าน
As
WEDDING GUESTS, ALL MUST PRAY IN THE NAME OF JESUS . CHRIST, whereas this is
not a requirement for THE BRIDE. Whereas JESUS acts as an INTERCESSOR on behalf of the WEDDING GUESTS, THE BRIDE may PRAY
DIRECTLY TO GOD.
สำหรับแขกรับเชิญนั้น
พวกเขาจะต้องอธิษฐานในนามของพระเยซูคริสต์
ซึ่งสิ่งนี้ไม่จำเป็นสำหรับเจ้าสาวของพระคริสต์ เนื่องจากพระเยซูทำหน้าที่เหมือนตัวกลางในการอธิษฐานแทนบรรดาแขกรับเชิญ
แต่เจ้าสาวสามารถอธิษฐานได้โดยตรงต่อพระเจ้า
John 16:24 HITHERTO HAVE YE ASKED NOTHING IN MY NAME:
ASK, AND YE SHALL RECEIVE, THAT YOUR JOY MAYBE FULL.
John 16:25 THESE THINGS HAVE I SPOKEN UNTO YOU IN
PROVERBS: BUT THE TIME COMETH, WHEN I SHALL NO MORE SPEAK UNTO YOU IN PROVERBS,
BUT I SHALL SHEW YOU PLAINLY OF THE FATHER.
John 16:26 AT THAT DAY YE SHALL ASK IN MY NAME: AND I
SAY NOT UNTO YOU, THAT I WILL PRAY THE FATHER FOR YOU:
John 16:27 FOR THE FATHER HIMSELF LOVETH YOU, BECAUSE
YE HAVE LOVED ME, AND HAVE BELIEVED THAT I CAME OUT FROM GOD.
ยอห์น 16:24 แม้จนบัดนี้ท่านยังไม่ได้ขอสิ่งใดในนามของเรา จงขอเถิดแล้วจะได้
เพื่อความชื่นชมยินดีของท่านจะมีเต็มเปี่ยม
16:25 เราพูดเรื่องนี้กับท่านเป็นคำอุปมา แต่วันหนึ่งเราจะไม่พูดกับท่านเป็นคำอุปมาอีก
แต่จะบอกท่านถึงเรื่องพระบิดาอย่างแจ่มแจ้ง
16:26 ในวันนั้นพวกท่านจะทูลขอในนามของเรา
และเราจะไม่บอกท่านว่า เราจะอ้อนวอนพระบิดาเพื่อท่าน
16:27 เพราะว่าพระบิดาเองก็ทรงรักท่านทั้งหลาย
เพราะท่านรักเราและเชื่อว่าเรามาจากพระเจ้า
This LOVE of JESUS and BELIEF in HIS WORDS COMES BY WAY of HOLY SPIRIT BAPTISM, for the BRIDE; however, for the FRIENDS, the WEDDING GUESTS, HOLY SPIRIT BAPTISM, provides them with the FAITH needed to BELIEVE in JESUS, but
their LOVE of JESUS is their OWN, and not the LOVE of THE HOLY SPIRIT for HIS
SON. HOLY SPIRIT LOVE ONLY TRANSCENDS WITHIN THE FAMILY of CHRIST.
ความรักของพระเยซูคริสต์ และความเชื่อในพระคำของพระองค์นี้
มาจากการรับบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ของเจ้าสาว
แต่อย่างไรก็ดีสำหรับเพื่อนผู้ซึ่งเป็นแขกรับเชิญนั้น
การรับบัพติสมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ทำให้พวกเขามีความเชื่อที่จำเป็นในการเชื่อพระเยซู
แต่ความรักของพระเยซูนั้นมาจากพวกเขาเอง
และไม่ใช่ความรักของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่มีต่อพระบุตรของพระองค์ ความรักของพระวิญญาณบริสุทธิ์มีให้เฉพาะในครอบครัวของพระคริสต์เท่านั้น.
No comments:
Post a Comment